Escolar Documentos
Profissional Documentos
Cultura Documentos
ALสาธิต 1
จากรูปจะเห็นได้วา่ กรวยแห่งการเรียนรูน ้ ี้ได้แบ่งเป็ น 2 กระบวนการ คือ
1. กระบวนการเรียนรูแ ้ บบรับ ความรู ้ (Passive Learning)
- การเรียนรูโ้ ดยการอ่าน ท่องจา ผู้เรียนจะจาได้ในสิ่งที่เรียนเพี ย ง
20%
-
การเรียนรูโ้ ดยการฟังบรรยายเพียงอย่างเดียวโดยทีผ ่ เู้ รียนไม่มีโอกาสได้มี
ส่วนร่วมใน
การเรียนรูด ้ ว้ ยกิจกรรมอืน ่ ในขณะทีค ่ รูสอน เมือ ่ เวลาผ่านไปผูเ้ รียนจะจาได้เพียง
20 % ห า ก ใ น กิ จ ก ร ร ม ก า ร เ รี ย น รู ้
ผูเ้ รียนมีโอกาสได้เห็นภาพประกอบด้วยก็จะทาให้ผลการเรียนรูค ้ งอยูไ่ ด้เพิม ้ เ
่ ขึน
ป็ น 30 %
- การเรี ย นรู ้ที่ ผู้ ส อนจัด ประสบการณ์ ใ ห้ ก บ ั ผู้ เ รี ย นเพิ่ ม ขึ้ น เช่ น
การให้ดภ ู าพยนตร์ การสาธิต
จัด นิ ท รรศการให้ผู้เ รี ย นได้ดู รวมทั้ง การน าผู้เ รี ย นไปทัศ นศึก ษาหรื อ ดู ง าน
ก็ทาให้ผลการเรียนรูเ้ พิม ่ ขึน้ เป็ น 50 %
2. กระบวนการเรียนรูด ้ ว้ ยการปฏิบตั ิ (Active Learning)
-
ผูเ้ รียนมีบทบาทในการแสวงหาความรูแ ้ ละเรียนรูอ้ ย่างมีปฏิสม ั พันธ์จนเกิด
ความรู ้ ความ
เข้ า ใจ น าไปประยุ ก ต์ ใ ช้ สามารถวิ เ คราะห์ สัง เคราะห์ ประเมิ น ค่ า หรื อ
ส ร้ า ง ส ร ร ค์ สิ่ ง ต่ า ง ๆ แ ล ะ พั ฒ น า ต น เ อ ง เ ต็ ม ค ว า ม ส า ม า ร ถ ร ว ม ถึ ง
การจัด ประสบการณ์ ก ารเรี ย นรู ้ใ ห้ ไ ด้ร่ ว มอภิป ราย ให้ ฝึ กทัก ษะการสื่อ สาร
ทาให้ผลการเรียนรูเ้ พิม ่ ขึน้ เป็ น 70 %
- การนาเสนอผลงานทางการเรียนรู ้ ทีท ่ ง้ ั มีการฝึ กปฏิบตั ใิ นสภาพจริง
มีการเชือ ่ มโยงกับสถานการณ์ ตา่ งๆ จะทาให้ผลการเรียนรูเ้ กิดขึน ้ ถึง 90%
องค์ประกอบ/ลักษณะสาคัญ
ลักษณะสาคัญของ Active Learning มีดงั นี้
1. ผูเ้ รียนมีสว่ นร่วมในกิจกรรมการเรียนรูท ้ ห
ี่ ลากหลาย
2. ตระหนักถึงคุณค่าในตัวผูเ้ รียน
3. เน้นการพัฒนาทักษะทีส ่ าคัญ มากกว่าการจดจาเนื้อหาการเรียน
4. ผูเ้ รียนได้รบ ั ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) ทันทีจากผูส ้ อน
5. ผู้ เ รี ย นได้ ฝึ กทัก ษะการคิ ด ขั้น สู ง ได้ แ ก่ การคิ ด วิ เ คราะห์
การคิดสังเคราะห์
ALสาธิต 2
6. เพิม
่ แรงจูงใจในการเรียนให้กบ
ั ผูเ้ รียน
ความสัมพันธ์สอดคล้องของกระบวนการเรียนรูท ้ างวิศวกรรม(Engineerin
g Procedure) และกระบวนการเรียนรูท ้ างเทคโนโลยี (Technology
Procedure) กับ GPAS
ALสาธิต 4
2. เ ท ค นิ ค ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู ้ ด้ ว ย กิ จ ก ร ร ม Active Learning
เ ป็ น เ ท ค นิ ค ที่ ส า ม า ร ถ น า ไ ป ใ ช้ ป รั บ ป รุ ง
เพิ่ม เติม ในกิจกรรมการเรีย นรูป ้ กติ ที่ได้วางแผนไว้แ ล้วแต่ย งั ค่อ นข้า งจะเป็ น
Passive Learning โ ด ย ก า ร ป รั บ ป รุ ง น า กิ จ ก ร ร ม ม า ย่ อ ย ๆ ม า เ ส ริ ม
ให้ ผู้ เ รี ย นมี ส่ ว นร่ ว มในกิ จ กรรม ได้ ค้ น หา แลกเปลี่ ย น ได้ คิ ด วิ เ คราะห์
ได้ตอบคาถาม ได้ลงมือทา ได้อภิปราย และอืน ่ ๆ ใช้ได้ทง้ ั ในขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน
ขั้ น จั ด กิ จ ก ร ร ม ก า ร เ รี ย น รู ้ แ ล ะ ขั้ น ส รุ ป
ผู้ ส อนสามารถเลื อ กกิ จ กรรมที่ เ หมาะสมไปใช้ เ พื่ อ ให้ ผู้ เ รี ย นมี ส่ ว นร่ ว ม
ลงมื อ ปฏิบ ต ั ิ และเกิด การเรี ย นรู ้ม ากที่สุ ด เทคนิ ค จัด การเรี ย นรู ้ด้ว ยกิจ กรรม
Active Learning มี ห ล า ก ห ล า ย เ ท ค นิ ค เ ช่ น Active reading , Brain
storming , Gallery walk , Jigsaw , Think-Pair-Share , Question and
Answer Pairs , Round table เ ป็ น ต้ น
และได้นาเสนอไว้ในส่วนท้ายของบทความนี้
ความสาคัญของการเรียนรูแ
้ บบ Active Learning
ก า ร เ รี ย น รู ้ แ บ บ Active Learning
เ ป็ น แ น ว ท า ง ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู ้ ใ น ศ ต ว ร ร ษ ที่ 21
ทีต
่ อบโจทย์ของการสร้างทักษะการเรียนรูใ้ ห้กบ ั ผูเ้ รียนมากกว่าการจดจาเนื้ อหาค
วามรู ้ การเรียนรูด ้ ว้ ยการลงมือปฏิบตั จิ ะช่วยให้ผเู้ รียนมีความเข้าใจทีก
่ ระจ่างชัด
ไ ด้ ฝึ ก ทั ก ษ ะ ที่ ส า คั ญ ห ล า ก ห ล า ย ป ร ะ ก า ร น อ ก จ า ก นี้
ยังช่วยเพิม ่ ความสามารถในการจดจาบทเรียน ซึง่ มีผลงานวิจยั หลายเรือ ่ งยืนยันว่า
Active Learning สามารถช่ว ยพัฒ นาประสิท ธิภ าพในการเรี ย นรู ้ข องผู้เ รี ย น
มี เ จ ต ค ติ ที่ ดี ต่ อ เ พื่ อ น แ ล ะ ก ร ะ บ ว น ก า ร เ รี ย น รู ้
ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ ทางสังคมระหว่างผูเ้ รียนกับผูเ้ รียน และผูเ้ รียนกับครู
อีกทัง้ ช่วยสร้างชุมชนการเรียนรูใ้ นชัน
้ เรียน
ALสาธิต 5
เทคนิคการจัดการเรียนรู ้ Active Learning
ที่ เทคนิค วิธีการดาเนินการ
1 Active ใ ห้ นั ก เ รี ย น อ่ า น บ ท ค ว า ม / บ ท อ่ า น
readin แล้ ว แลกเปลี่ ย นความคิ ด กับ เพื่ อ นเกี่ ย วกับ สิ่ ง ที่ อ่ า น
g สรุปสิง่ ทีอ
่ า่ นเป็ น ผังมโนทัศน์ (Concept Map)
ALสาธิต 6
ที่ เทคนิค วิธีการดาเนินการ
เพื่ อ ให้ แ ลกเปลี่ ย นเรี ย นรู ้ ร ะหว่ า งการเดิ น ชมผลงาน
(อาจมอบหมายให้ทาเป็ นกลุม ่ และในขัน ้ ตอนการนาเสนอ
ให้ มี ต วั แทนกลุ่ ม 1 คน ประจ าอยู่ ที่ ผ ลงานกลุ่ ม ติด อยู่
เพือ
่ ให้ขอ ้ มูลกับผูท
้ ม
ี่ าเยีย่ มชมผลงาน)
6 Jigsaw ผู้ ส อ น เ ลื อ ก เ นื้ อ ห า ที่ แ บ่ ง เ ป็ น ส่ ว น ๆ 3- 4 ชิ้ น
แ บ่ ง ผู้ เ รี ย น เ ป็ น ก ลุ่ ม ๆ โ ด ย มี ส ม า ชิ ก ใ น ก ลุ่ ม เ ท่ า ๆ
กันกับเนื้อหา
( Home group)
สมาชิกแต่ละคนเลือกเนื้อหาทีต ่ นสนใจแล้วไปร่วมกับสมา
ชิ ก จ า ก ก ลุ่ ม อื่ น ( Expert group) เ พื่ อ ศึ ก ษ า
ท า ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ห รื อ ห า ค า ต อ บ ร่ ว ม กั น ใ น ก ลุ่ ม
จากนัน ้ กลับไปสอนทีก ่ ลุม ่ เดิมของตนจนครบถ้วน
ALสาธิต 7
ที่ เทคนิค วิธีการดาเนินการ
1 Chain ผูส
้ อนเตรียมคาถาม/ข้อความทีเ่ กีย่ วข้องกับเนื้อหาทีต ่ อ้ งก
0 Note า ร ไ ว้ โ ด ย อ า จ พิ ม พ์ ล ง บ น ก ร ะ ด า ษ A4
แล้ ว ให้ ผู้เ รี ย นแต่ ล ะคนตอบค าถามหรื อ ข้ อ ความนั้น ๆ
เ พี ย ง 1- 2 ป ร ะ โ ย ค
จากนัน ้ ส่งต่อกระดาษแผ่นนัน ้ ให้เพื่อนทีน ่ ่ งั ถัดไปเพือ ่ ช่วย
กั น ต อ บ ค า ถ า ม นั้ น ใ ห้ ส ม บู ร ณ์ ยิ่ ง ขึ้ น
ส า ม า ร ถ ใ ช้ ก่ อ น เ รี ย น ห รื อ ห ลั ง เ รี ย น ไ ด้
แ ล ะ ค ว ร ส่ ง ก ร ะ ด า ษ แ ผ่ น นั้ น ก ลั บ ใ น ทิ ศ ท า ง เ ดิ ม
เพือ่ ให้ผท ู้ เี่ ขียนก่อนได้อา่ นความเห็นทัง้ หมดด้วย
1 Studen เ ป็ น ก า ร ใ ห้ ผู้ เ รี ย น ไ ด้ ส ะ ท้ อ น ค ว า ม คิ ด
1 ts’ อ า จ จ ะ ใ ห้ ผู้ เ รี ย น ส รุ ป สิ่ ง ที่ ไ ด้ เ รี ย น รู ้ ใ น ค า บ เ รี ย น
Reflect เสนอแนะเกี่ ย วกับ การเรี ย น ถามค าถามที่ ย ัง สงสัย
หรือให้ผเู้ รียนค้นคว้าเพิม ่ เติมเกีย่ วกับสิง่ ทีเ่ รียน เช่น
ion
- Know – Want – Learned (KWL) เมือ ่ เริม ่ ต้นบทเรียน
ให้ผเู้ รียนเขียนสิง่ ทีร่ ูแ้ ละสิง่ ทีอ ่ ยากรูเ้ กีย่ วกับเนื้อหาทีจ่ ะเรี
ยน เมือ ่ จบบทเรียน ให้ผเู้ รียนเขียนสรุปสิง่ ทีไ่ ด้เรียนรู ้
- Got – Need แ ล ะ Exit Ticket เ มื่ อ จ บ บ ท เ รี ย น
ใ ห้ ผู้ เ รี ย น เ ขี ย น สิ่ ง ที่ ไ ด้ เ รี ย น รู ้
อ า จ เ ป็ น ก า ร ส รุ ป ร่ ว ม กั น ห น้ า ชั้ น เ รี ย น
และวางแผนกิจกรรมการเรียนจากสิง่ ทีอ ่ ยากรูเ้ พิม ่ เติม
- Diary/ Journal Note เ ขี ย น ส รุ ป สิ่ ง ที่ ไ ด้ เ รี ย น รู ้
คาถามทีย่ งั สงสัย ความในใจ
1 One เป็ นกิจกรรมทีก ่ าหนดให้ผเู้ รียนเขียนสิง่ ทีก ่ าหนดให้ลงใน
2 minute ก ร ะ ด า ษ โ ด ย ก า ห น ด เ ว ล า ใ ห้ 1 น า ที
paper อ า จ ป รั บ ใ ช้ ส า ห รั บ ขั้ น น า เ ข้ า สู่ บ ท เ รี ย น
เพือ ่ เป็ นการตรวจสอบความรูเ้ ดิมของผูเ้ รียน หรือขัน ้ สรุป
สาหรับให้ผเู้ รียนสรุปความรูจ้ ากการเรียน
1 Rally เป็ นเทคนิควิธีเรียนแบบร่วมมือทีน ่ กั เรียนแบ่งเป็ นกลุม ่ ย่อ
3 robin ย แ ล้ ว ค รู เ ปิ ด โ อ ก า ส ใ ห้ นั ก เ รี ย น ไ ด้ พู ด ต อ บ
แสดงความคิดเห็นเป็ นคู่ ๆ แต่ละคู่จะผลัดกันพูดและฟัง
โดยใช้เวลาเท่าๆ กัน
1 Rally เ ป็ น เ ท ค นิ ค ค ล้ า ย กั บ ก า ร พู ด เ ป็ น คู่
4 table ต่างกันเพียงแต่ละคูผ
่ ลัดกันเขียนหรือวาดแทนการพูด
ALสาธิต 8
ที่ เทคนิค วิธีการดาเนินการ
1 Round เป็ นเทคนิ ค ที่เ ปิ ดโอกาสให้น กั เรี ย นในกลุ่ม ผลัด กัน พู ด
5 robin ต อ บ
อธิบายซึง่ เป็ นการพูดทีผ่ ลัดกันทีละคนตามเวลาทีก ่ าหนดจ
นครบทุกคน (อาจเป็ นกลุม ่ ใหญ่หรือกลุม ่ ย่อย)
1 Round เป็ นเทคนิคทีเ่ หมือนกับการพูดรอบวงแตกต่างกันทีเ่ น้นกา
6 table ร เ ขี ย น แ ท น ก า ร พู ด
เมื่ อ ครู ถ ามปั ญ หาหรื อ ให้ น ัก เรี ย นแสดงความคิ ด เห็ น
นักเรียนจะผลัดกันเขียนลงในกระดาษทีเ่ ตรียมไว้ทีละคน
ตามเวลาทีก ่ าหนด
1 Simult เ ท ค นิ ค นี้ เ ห มื อ น ก า ร เ ขี ย น ร อ บ ว ง
7 aneous แตกต่างกันทีเ่ น้นให้สมาชิกทุกคนในกลุม ่ เขียนคาตอบพร้
round อมกัน
table
2 Line- เ ป็ น เ ท ค นิ ค ที่ ง่ า ย ๆ
0 ups โ ด ย ใ ห้ นั ก เ รี ย น ยื น แ ถ ว จั ด เ รี ย ง ล า ดั บ ภ า พ ค า
หรือสิง่ ทีค
่ รูกาหนดให้ เช่น ครูให้ภาพต่างๆ แก่นกั เรียน
แล้วให้นกั เรียนยืนเรียงลาดับภาพขัน ้ ตอนของวงจรชีวิตข
องแมลง ห่วงโซ่อาหาร เป็ นต้น
ALสาธิต 9
ที่ เทคนิค วิธีการดาเนินการ
2 Inside– เป็ นเทคนิคทีใ่ ห้นกั เรียนนั่งหรือยืนเป็ นวงกลมซ้อนกัน 2
1 outside วง จานวนเท่ากัน วงในหันหน้าออก วงนอกหันหน้าเข้า
circle ั เพื่อ สัม ภาษณ์ ซึ่งกันและกัน
นัก เรี ย นที่อ ยู่ต รงกับ จับ คู่ก น
ห รื อ อ ภิ ป ร า ย ปั ญ ห า ร่ ว ม กั น
จากนัน ้ จะหมุนเวียนโดยนักเรียนวงนอกและวงในเคลือ ่ นไ
ปในทิ ศ ทางตรงข้ า มกัน เพื่ อ เปลี่ ย นคู่ ใ หม่ ไ ปเรื่ อ ย ๆ
ไม่ซา้ คูก ่ น
ั
2 Corner เป็ นเทคนิ ค วิ ธี ที่ ค รู เ สนอปั ญ หา และ ระบุ มุ ม ต่ า ง ๆ
2 s ภ า ย ใ น ห้ อ ง เ รี ย น แ ท น แ ต่ ล ะ ข้ อ
แล้วนักเรียนแต่ละกลุม ่ ย่อยเขียนหมายเลขข้อทีช ่ อบมากก
ว่ า แ ล ะ เ ค ลื่ อ น เ ข้ า สู่ มุ ม ที่ เ ลื อ ก ไ ว้
นัก เรี ย นร่ ว มกัน อภิ ป รายภายในกลุ่ ม ตามมุ ม ต่ า ง ๆ
หลังจากนัน ้ จะเปิ ดโอกาสให้นกั เรียนในมุมใดมุมหนึ่งอภิป
รายเรือ ่ งราวทีไ่ ด้ศกึ ษาให้เพือ ่ นในมุมอืน ่ ฟัง
2 Pair เ ป็ น เ ท ค นิ ค ที่ ค รู ก า ห น ด หั ว ข้ อ ห รื อ ค า ถ า ม
3 discus แล้วให้สมาชิกทีน่ งั ใกล้กน ั ร่วมกันคิดและอภิปรายเป็ นคู่
sion
ALสาธิต 10
ที่ เทคนิค วิธีการดาเนินการ
2 The 1. ให้นกั เรียนจับบัตรคาถาม คนละ 1 คาถาม
6 power
2. ใ ห้ นั ก เ รี ย น แ ต่ ล ะ ค น คิ ด ห า ค า ต อ บ ด้ ว ย ต น เ อ ง
of two
แล้วเขียนตอบ
3. ให้นกั เรียนจับคูก
่ น
ั แลกเปลีย่ นคาถามและคาตอบ
4. นักเรียนแต่ละคูช
่ ว่ ยกันเรียบเรียงคาตอบใหม่
5.
นาคาตอบของแต่ละคู่ไปเปรียบเทียบกับคาตอบของคู่อื่น
ๆ ในชัน
้ เรียน
6. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปคาตอบ
2 Gallery 1. แ บ่ ง นั ก เ รี ย น อ อ ก เ ป็ น ก ลุ่ ม ก ลุ่ ม ล ะ 2- 4 ค น
7 of ครูตด ิ กระดาษปรูฟ ๊ ทีบ
่ ริเวณผนังห้อง
Learni
2.
ng
สมาชิกของกลุม ่ ร่วมกันอภิปรายเกีย่ วกับสิง่ ทีไ่ ด้รบ ั จากกา
รเรียนรู ้ อาจระบุเป็ นหัวข้อ เช่น ความรูใ้ หม่, ทักษะใหม่,
สิ่งที่ได้รบ
ั การพัฒนา, ค้นพบความสนใจใหม่ในเรื่อ ง..,
มีความมั่นใจในเรือ ่ ง..
3.
นักเรียนแต่ละคนเขียนประเด็นที่ได้เรียนรูล้ งในกระดาษ
post- it ห รื อ ก ร ะ ด า ษ ที่ ตั ด เ ป็ น ชิ้ น
นาไปติดลงในกระดาษปรูฟ ๊ ให้ตรงตามคอลัมน์ ของประเด็
นทีต
่ นเองเขียน
4. ค รู แ ล ะ นั ก เ รี ย น ร่ ว ม กั น ต ร ว จ ส อ บ ผ ล
แล้วสรุปข้อดีและข้อควรปรับปรุงในการเรียน
2 Poster 1.
8 Sessio ครูมอบหมายให้นก ั เรียนแต่ละคนรับผิดชอบเนื้ อหาย่อยใ
n นหัวข้อทีก
่ าลังเรียน
ALสาธิต 11
ที่ เทคนิค วิธีการดาเนินการ
2.
แต่ละคนรับผิดชอบไปสืบค้นข้อมูลตามทีไ่ ด้รบ
ั มอบหมาย
3. นัก เรี ย นแต่ ล ะคนน าข้ อ มู ล มาจัด ท าเป็ นโปสเตอร์
ตกแต่งให้สวยงาม
4. จั ด แ ส ด ง ผ ล ง า น โ ด ย ค รู
นั ก เรี ย นคนอื่ น แล ะแขก ที่ ไ ด้ ร ับ เชิ ญ ค นอื่ น เ ดิ น ช ม
แล้วให้นกั เรียนนาเสนอและตอบคาถามจากโปสเตอร์ของ
ตนเอง
บทบาทของผูส ้ อน
จากกิจกรรมและวิธี ก ารปฏิบ ต ั ิต ามแนวทางของการเรีย นรูแ ้ บบ Active
Learning ผู้ ส อ น เ ป็ น ผู้ ที่ มี บ ท บ า ท ส า คั ญ ก ล่ า ว คื อ
การจะบรรลุวตั ถุประสงค์ของการเรียนเชิงรุกหรือไม่ ผูส ้ อนควรมีบทบาทดังนี้
1. จั ด ใ ห้ ผู้ ส อ น เ ป็ น ศู น ย์ ก ล า ง ข อ ง ก า ร เ รี ย น
กิจกรรมหรือเป้ าหมายทีต ่ อ ้ งการต้อง
ส ะ ท้ อ น ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ที่ จ ะ พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น
และเน้นการนาไปใช้ประโยชน์ในชีวต ิ จริงของผูเ้ รียน
2. ส ร้ า ง บ ร ร ย า ก า ศ ข อ ง ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม
และการเจรจาโต้ตอบทีส ่ ง่ เสริมให้ผเู้ รียนมี
ปฏิสม ั พันธ์ทดี่ กี บ
ั ผูส ้ อน และเพือ ่ นในชัน ้ เรียน
3. จั ด กิ จ ก ร ร ม ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ใ ห้ เ ป็ น พ ล วั ต
ส่งเสริมให้ผเู้ รียนมีสว่ นร่วมในทุก
กิ จ กรรมที่ ส นใจรวมทั้ง กระตุ้ น ให้ ผู้ เ รี ย นประสบความส าเร็ จ ในการเรี ย น
กิจกรรมทีเ่ ป็ นพลวัต ได้แก่ การฝึ กแก้ปญ ั หาการศึกษาด้วยตนเอง เป็ นต้น
4. จัด สภาพการเรี ย นรู ้แ บบร่ว มมื อ (Collaborative Learning)
ส่งเสริมให้เกิดการ
ร่วมมือในกลุม ่ ผูเ้ รียน
5. จั ด กิ จ ก ร ร ม ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ใ ห้ ท้ า ท า ย
และให้โอกาสผูเ้ รียนได้รบ ั วิธีการสอนที่
ห ล า ก ห ล า ย ม า ก ก ว่ า ก า ร บ ร ร ย า ย เ พี ย ง อ ย่ า ง เ ดี ย ว
แ ม้ ร า ย วิ ช า ที่ เ น้ น ท า ง ด้ า น ก า ร บ ร ร ย า ย ห ลั ก ก า ร
แ ล ะ ท ฤ ษ ฎี เ ป็ น ห ลั ก ก็ ส า ม า ร ถ จั ด กิ จ ก ร ร ม เ ส ริ ม อ า ทิ ก า ร อ ภิ ป ร า ย
การแก้ไขสถานการณ์ ทก ี่ าหนด เสริมเข้ากับกิจกรรมการบรรยาย
ALสาธิต 12
6. ว า ง แ ผ น ใ น เ รื่ อ ง ข อ ง เ ว ล า ก า ร ส อ น อ ย่ า ง ชั ด เ จ น
ทัง้ ในเรือ
่ งของเนื้อหา และกิจกรรม
ใ น ก า ร เ รี ย น ทั้ ง นี้ เ นื่ อ ง จ า ก ก า ร เ รี ย น เ ชิ ง รุ ก จ า เ ป็ น
ต้ อ ง ใ ช้ เ ว ล า ก า ร จั ด กิ จ ก ร ร ม ม า ก ก ว่ า ก า ร บ ร ร ย า ย
ดั ง นั้ น ผู้ ส อ น จ า เ ป็ น ต้ อ ง ว า ง แ ผ น ก า ร ส อ น อ ย่ า ง ชั ด เ จ น
โดยสามารถกาหนดรายละเอียดลงในประมวลรายวิชา เป็ นต้น
7. ใ จ ก ว้ า ง ย อ ม รั บ ใ น ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร แ ส ด ง อ อ ก
และความคิดเห็นทีผ ่ เู้ รียนนาเสนอ
บทบาทของผูเ้ รียน
1. ก า ห น ด เ ป า ห ม า ย ว า ง แ ผ น
และรับผิดชอบการเรียนรู ของตนเอง
2. มีสว่ นร่วมในกิจกรรมการเรียนรู ้ ให้ความคิดเห็น และสะท้อนผล
3. ล ง มื อ ป ฏิ บั ติ จ ริ ง ส รุ ป สิ่ ง ที่ ไ ด้ เ รี ย น รู ด ว ย ต น เ อ ง
และนาความรู ไปประยุกต ใช ในสถานการณ ต าง ๆ
4. มีสว่ นร่วมในการประเมินการเรียนรู แ ้ ละพัฒนากระบวนการเรียนรู
ของตนเองอย างต อเนื่อง
5. ปรับปรุงการปฏิบตั อ ิ ยูเ่ สมอ
6. เคารพในตนเองและผูอ ้ ืน
่
..................................................
ALสาธิต 13